การขอรับใบอนุญาตขับรถยนตชั่วคราวและใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ชั่วคราว

การขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราวและใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ชั่วคราว
    ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ (ยกเว้นผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ความจุ กระบอกสูบขนาดไม่เกิน 110 ซีซีต้องมีอายุไม่ต่ำ กว่า 15 ปี บริบูรณ์) และต้องไม่เป็นผู้มีร่างกาย บกพร่อง หรือ ตาบอดสี

การขอดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถ ให้ยื่นคำขอที่สำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1, 2, 3 และ 4 สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขา

หลักฐานประกอบคำขอ
1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นซึ่งใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมด้วยภาพถ่าย ในกรณีผู้ขอเป็นคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ให้ยื่นใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหรือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง พร้อมด้วยภาพถ่าย
2. ภาพถ่ายหรือสำเนาทะเบียนบ้าน ในกรณีผู้ขอเป็นคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ให้ยื่นใบสำคัญถิ่นที่อยู่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง หรือใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว (WORK PERMIT) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ พร้อมด้วยภาพถ่าย หรือหลักฐานแสดงที่พักอาศัยในราชอาณาจักรที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศออกให้ แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 ปี
3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
4. รูปถ่าย ขนาด 3 x 4 ซ.ม. (1 นิ้ว) ซึ่งถ่ายก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป (สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นรูปแบบใหม่ ไม่ต้องนำรูปมา แต่ต้องชำระเงินค่าบริการ 100 บาท

ถ้าผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถมีใบอนุญาตขับรถดังต่อไปนี้ ให้นำมาด้วย พร้อมภาพถ่าย เพื่อจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นการทดสอบบางประการ ดังนี้
- ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกซึ่งยังไม่สิ้นอายุ พร้อมด้วยภาพถ่าย
- ใบอนุญาตพิเศษให้ขับรถยนตร์ทหารตามกฎหมายว่าด้วยรถยนตร์ทหาร ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ พร้อมด้วยภาพถ่าย
- ใบอนุญาตขับรถตามความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ พร้อมด้วยภาพถ่าย
- ใบอนุญาตขับรถของรถประเภทเดียวกันกับที่ขอรับใบอนุญาตซึ่งรัฐบาลของประเทศอื่นออกให ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ พร้อมด้วยภาพถ่าย
ในกรณีใบอนุญาตขับรถมิได้มีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ให้สถานทูตแห่งประเทศผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถแปลหรือจัดทำเอกสารรับรองใบอนุญาตขับรถเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ภาษาใดภาษาหนึ่ง หรือทั้งสองภาษารวมกัน


กำหนดเวลาและขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตใหม่
   เวลา 08.30 - 10.00 น. ยื่นคำขอพร้อมหลักฐานประกอบคำขอที่ช่องบริการที่ 2 พร้อมทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย แบ่งออกเป็น
การทดสอบปฏิกิริยา ให้ทดสอบความสามารถในการใช้เบรกเท้ารวม 3 ครั้ง หากสามารถเหยียบเบรกได้ในระยะเวลาน้อยกว่า หรือเท่ากับ 0.75 วินาที 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ
การทดสอบสายตา แบ่งเป็น
1. ทดสอบสายตาทางกว้าง ถ้าสามารถมองเห็นทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เป็นมุมกว้างข้างละ 75 องศา 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ
2. ทดสอบสายตาทางลึก ให้ทดสอบการมองเห็นในระยะ 2.50 - 3.50 เมตร รวม 3 ครั้ง หากผลการทดสอบห่างจากจุดที่กำหนดไม่เกินกว่า 1 นิ้ว 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ
3. ทดสอบสายตาบอดสี ให้ดูสีเขียว สีแดง และสีเหลืองจากเครื่องทดสอบหรือแผ่นภาพทดสอบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดหรือเห็นชอบ โดยอยู่ห่างจากแผ่นภาพทดสอบในระดับสายตาระยะไม่น้อยกว่า 3 เมตร แล้วอ่านสีตามที่เจ้าหน้าที่กำหนดสีละ 3 ครั้ง หากอ่านได้ถูกต้อง 2 ใน 3 ครั้ง ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ


 

 

 
ยื่นคำขอพร้อมหลักฐานประกอบ
ทดสอบสายตาทางลึก
และทางกว้าง
ทดสอบตาบอดสี
 
     เวลา 10.00 - 11.00 น. อบรมวิชากฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก (การขับขี่อย่างปลอดภัย)
     เวลา 11.00 - 12.00 น. อบรมวิชากฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (มารยาทในการขับรถ)
     เวลา 12.00 - 13.00 น. พักเที่ยง
      เวลา 13.00 - 13.30 น. ทดสอบข้อเขียนด้วยระบบ E-exam พร้อมแจ้งผลสอบ
การทดสอบข้อเขียน
ผู้เข้ารับการทดสอบข้อเขียนต้องทดสอบความรู้ในข้อควรปฏิบัติ หรือข้อบังคับการเดินรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ตามชนิดของใบอนุญาต กรณีเป็นการทดสอบสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ต้องทดสอบความรู้เกี่ยวกับถนนและทางหลวงในเขตจังหวัดที่ขอรับใบอนุญาตขับรถนั้นด้วย
จะใช้วิธีการทดสอบด้วยระบบ E-exam จำนวน 30 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน และต้องได้ 23 คะแนนขึ้นไปจึงจะถือว่าผ่านการทดสอบทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์
 
 
 
     เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ทดสอบขับรถ - รับชำระค่าธรรมเนียม-จ่ายใบอนุญาตฯ
การทดสอบขับรถ
ผู้เข้ารับการทดสอบต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. การทดสอบขับรถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เว้นแต่เป็นรถยนต์ที่ไม่ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยตามที่กฎหมายกำหนด
2. การทดสอบขับรถจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกนิรภัย

การทดสอบขับรถยนต์ ให้ใช้ท่าทดสอบ ดังนี้
ท่าที่ 1 การขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า
ผู้เข้ารับการทดสอบต้องขับรถเดินหน้าตั้งแต่เริ่มขับรถอย่างต่อเนื่องไปจนถึงจุดทดสอบที่กำหนดให้หยุดรถ โดยให้หยุดรถได้เพียงครั้งเดียว ณ จุดที่กำหนดให้หยุดเท่านั้น ด้านซ้ายของรถต้องขนานขอบทางและห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตร กันชนหน้าหรือล้อหน้าสุดหรือขอบล้อสำหรับที่ไม่มีกันชนหน้าต้องไม่ล้ำเกินจุดหยุดรถข้างทาง และต้องอยู่ห่างจากจุดหยุดรถนั้น ไม่เกิน 1 เมตร และ ต้องไม่ขับรถปีนทางเท้าหรือขอบทาง
ท่าที่ 2 การขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง ให้เลือกทดสอบแบบใดแบบหนึ่ง ดังนี้
แบบที่ 1 ให้ขับรถเดินหน้าและถอยหลังออกโดยตลอดช่องเดินรถ ซึ่งประกอบด้วยหลักที่ตั้งไว้ในแนวตรงขนานกัน 2 แถว มีความยาวประมาณ 10 - 12 เมตร หลักแต่ละหลักในแถวเดียวกัน มีระยะห่าง 1.5 เมตร ส่วนความกว้างของช่องเดินรถเท่ากับความกว้างสุดของตัวรถรวมกระจกมองข้างบวกเพิ่มอีก 0.5 ิเมตร ต้องไม่ขับรถชนหรือเบียดหลัก ให้ขับรถเดินหน้าหรือถอยหลังได้เพียงครั้งเดียว และเครื่องยนต์ต้องไม่ดับ
แบบที่ 2 ให้ขับรถเดินหน้าและถอยหลังออกโดยตลอดช่องเดินรถ ซึ่งมีขนาดความกว้าง 2.50 เมตร ยาว 10 - 12 เมตร เป็นระยะคงที่ใช้กับรถทุกขนาด ล้อรถต้องไม่ทับเส้น หรือไม่ชน หรือเบียดหลัก ให้ขับรถเดินหน้าและถอยหลังได้เพียงครั้งเดียว และเครื่องยนต์ต้องไม่ดับ

ท่าที่ 3 การขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย
ให้ขับรถถอยหลังเข้าจอดในช่องว่างด้านซ้ายซึ่งประกอบด้วยหลักไม่น้อยกว่า 9 หลัก เป็นช่องกว้างเท่ากับความกว้างของรถรวมกระจกมองข้างบวกเพิ่มข้างละ 0.5 เมตร ความยาวของช่องจอดเท่ากับความยาวของตัวรถบวกเพิ่มอีก 2.5 เมตร ตั้งแต่เริ่มเข้าเกียร์ขับรถถอยหลังเข้าจอดจนกระทั่งขับออกจากช่องว่างด้านซ้ายต้องเข้าเกียร์หรือเปลี่ยนเกียร์ไม่เกิน 7 ครั้ง ต้องไม่ชนหรือเบียดหลัก และตัวรถต้องขนานกับขอบทางหรือหลักด้านซ้าย ล้อรถต้องไม่ทับเส้นแบ่งช่องทาง

ท่าที่ 4 การหยุดรถและออกรถบนถนนลาด (สำหรับรถเกียร์ธรรมดา)
ให้ขับรถขึ้นเนินหรือสะพานโค้งแล้วหยุดรถบนเชิงลาดของเนินหรือสะพานโค้งนั้น โดยให้กันชนหน้าอยู่ที่จุดหยุดรถแล้วออกรถข้ามเนินหรือสะพานโค้งนั้นไปโดยปลอดภัย ต้องไม่ขับรถในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายหรือเป็นเหตุให้ตัวรถเคลื่อนถอยจากจุดที่หยุดเกินกว่า 1 เมตร และเครื่องดับไม่เกิน 2 ครั้ง

ท่าที่ 5 การกลับรถ
ให้กลับรถในช่องเดินรถ ซึ่งประกอบด้วยหลักที่ตั้งไว้ขนานกัน 2 แถว มีความยาวประมาณ 10 - 12 เมตร หลักในแต่ละแถวห่างกัน 1.5 เมตร ส่วนความกว้างของช่องเดินรถเท่ากับความยาวของรถบวกเพิ่มอีก 2 เมตร ต้องไม่ขับรถชน หรือเบียดหลัก และตั้งแต่เริ่มขับรถเพื่อกลับรถ จนกระทั่งกลับรถแล้วเสร็จต้องเปลี่ยนเกียรไม่เกินกว่า 7 ครั้ง

ท่าที่ 6 การขับรถเดินหน้าเข้าจอดในช่องที่เป็นมุมฉาก
ให้ผู้เข้ารับการทดสอบขับรถจากจุดเริ่มต้นให้ขับเดินหน้าเข้าไปในช่องจอดที่เป็นมุมฉาก ซึ่งประกอบด้วยหลักที่ตั้งเป็นแนวทดสอบ 2 แถว ขนานกันเป็นช่องเดินรถกว้าง 8 เมตร ยาวประมาณ 10 -20 เมตร และหลักอีก 2 แถวที่ตั้งเป็นแนวช่องจอดที่เป็นมุมฉากกับช่องเดินรถที่มีความกว้างเท่ากับความกว้างของตัวรถรวมกับกระจกมองข้างบวกเพิ่มอีกข้างละ 1 เมตร ความยาวเท่ากับความยาวของตัวรถบวกเพิ่มอีก 1 เมตร

ท่าที่ 7 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
ให้ขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร ไม่น้อยกว่า 8 เครื่องหมาย คือ ป้ายหยุด ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือห้ามเลี้ยวขวา ให้เลี้ยวซ้ายหรือให้เลี้ยวขวา ห้ามหยุดรถ ห้ามเข้า และเครื่องหมายอื่นๆ อีก 3 เครื่องหมาย และต้องให้สัญญาณไฟตามจุดต่างๆ ได้ถูกต้องทุกแห่ง

การทดสอบขับรถยนต์ ให้ทดสอบขับรถ จำนวน 3 ท่า คือ ท่าที่ 1 และท่าที่ 2 เป็นท่าบังคับ และเลือกทดสอบอีก 1 ท่าตามความเหมาะสมของสนามทดสอบ ยกเว้นรถเกียร์อัตโนมัติไม่ใช้ท่าที่ 4 (สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการใช้ท่าที่ 1,2,3 ในการทดสอบ)


การทดสอบขับรถจักรยานยนต์ ให้ใช้ท่าทดสอบ ดังนี้

ท่าที่ 1 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
ผู้เข้ารับการทดสอบต้องปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรไม่น้อยกว่า 5 เครื่องหมาย คือ ป้ายหยุด ห้ามเลี้ยวซ้ายหรือห้ามเลี้ยวขวา ให้เลี้ยวซ้ายหรือให้เลี้ยวขวา ห้ามหยุดรถ ห้ามเข้า และต้องให้สัญญาณไฟตามจุดต่างๆ ได้ถูกต้องทุกแห่ง

ท่าที่ 2 การขับรถทรงตัวบนทางแคบ
ต้องขับขี่โดยทรงตัวบนอุปกรณ์ที่ใช้ไม้กระดานกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 15 เมตร หรือใช้คอนกรีตเทเป็นแนวเส้นตรงตามขนาดดังกล่าวให้สูงประมาณ 2 - 3 เซนติเมตร โดยให้กำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดห่างจากไม้กระดานหรือแนวคอนกรีต 8 เมตร และต้องขับผ่านตลอดตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 วินาที และเริ่มนับเวลาเมื่อล้อหลังขึ้นอยู่บนอุปกรณ์และสิ้นสุดเมื่อล้อหน้าลงจากอุปกรณ์
ในระหว่างขับ เท้าต้องไม่หลุดจากที่พักเท้า ล้อต้องไม่ตกหรือลื่นไถลจากอุปกรณ์ ใช้ความเร็วอย่างเหมาะสม และเครื่องต้องไม่ดับระหว่างทดสอบ

ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัวแซด
ให้ขับรถในทางโค้งรัศมีแคบ ที่ใช้หลักหรือกรวยหรือใช้คอนกรีตเทเป็นรูปตัวแซด (Z) ที่มีช่องเดินรถกว้าง 2 เมตร กรวยหรือหลักห่างกัน 1.5 เมตร ฐานบนและฐานล่างของตัวแซด ยาว 5 เมตร ความยาวระหว่างฐานบนและฐานล่างของตัวแซด ยาว 16 เมตร ให้ขับรถช้า ใช้เกียร์ต่ำและสามารถควบคุมรถขับเลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้ายไปได้ตลอด ห้ามลื่นไถลหรือรถล้ม ไม่ชนกรวยหรือหลัก เครื่องยนต์ต้องไม่ดับ และไม่ใช้เท้าแตะพื้น

ท่าที่ 4 การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวารูปตัวเอส
ให้ขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวา ที่ใช้หลักหรือกรวยหรือใช้คอนกรีตเทเป็นรูปตัวเอส (S) ที่มีช่องทางเดินรถกว้าง 2 เมตร ยาว 17 เมตร กรวยหรือหลักห่างกัน 1 เมตร ให้สามารถควบคุมรถผ่านไปได้ตลอดโดยรถไม่เสียหลักลื่นไถลหรือล้ม ไม่ชนกรวยหรือหลัก เครื่องยนต์ต้องไม่ดับ และไม่ใช้เท้าแตะพื้น

ท่าที่ 5 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
ให้ขับรถด้วยความเร็วที่ 20 - 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับรถหลบหลีกกรวยยางที่ตั้งไว้สำหรับทดสอบไปทางด้านซ้ายและด้านขวาในลักษณะสลับฟันปลา ซึ่งกรวยยางตั้งบนพื้นที่ที่มีความกว้าง 3.5 เมตร จำนวน 5 หลัก เป็นเส้นตรงบริเวณกึ่งกลางของพื้นที่ที่ใช้ทำการทดสอบ โดยให้กรวยยางแต่ละอันมีระยะห่าง 5 เมตร โดยให้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดมีระยะห่างจากกรวยยาง จำนวน 8 เมตร ในระหว่างขับรถต้องสามารถควบคุมรถได้ดี ไม่เสียหลักลื่นไถล ไม่เฉี่ยวหรือชนสิ่งกีดขวางหรือขอบทาง และเครื่องยนต์ต้องไม่ดับขณะขับรถ

การทดสอบขับรถจักรยานยนต์ ให้ทดสอบขับรถ จำนวน 3 ท่า คือ ท่าที่ 1 เป็นท่าบังคับ และเลือกทดสอบอีก 2 ท่าตามความเหมาะสมของสนามทดสอบ (สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการใช้ท่าที่ 1,2,5 ในการทดสอบ)

*เมื่อผ่านการทดสอบแล้วจะได้รับใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว มีกำหนด 1 ปี จากนั้นจึงขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถชนิดส่วนบุคคลมีกำหนด 5 ปี เมื่อใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวมีอายุครบ 1 ปี แล้ว และมิได้นำมาเปลี่ยนประเภท หากขาดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องทดสอบข้อเขียนใหม่ หากขาดอายุเกิน 3 ปี จะต้องทำการทดสอบใหม่ทั้งหมด การดำเนินการขอใบอนุญาตขับรถใหม่ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับจากวันยื่นคำขอ ถ้าเกิน 90 วัน ต้องดำเนินการใหม่ทั้งหมด

     เวลา 15.30 น. ปิดชำระค่าธรรมเนียม
   เวลา 16.30 น. ปิดทำการ